อิ่มกับอาหารจานเนื้อและราเมนเจ้าถิ่นไปเรียบร้อยก็ได้เวลาไปเดินเล่นย่อยอาหารที่ย่านคิชิโจจิ (Kichijoji) กันเสียที ย่านคิชิโจจิเป็นย่านที่มีความสมบูรณ์ในตัวเอง มีทั้งช้อป กิน ดื่ม เที่ยว ครบครัน ใครมีเวลาว่าง 1 วันในโตเกียวแล้วไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหน จะลองมาเดินเล่นที่นี่ก็ครบเครื่องดีครับ
เริ่มต้นจากสถานีรถไฟ Kichijoji ไม่ว่าท่านจะมาโดยรถไฟสาย Keio Inokashira หรือ JR ท่านจะออกมาที่โถงทางออกเดียวกัน จากนั้นท่านจะมองเห็นช่องทางออก 2 ช่องทางๆแรกเป็นทางออกด้านทิศเหนือ (Kita-guchi)ใครจะไปย่านช้อปปิ้งและกินดื่ม เชิญออกทางด้านนี้ อีกฝั่งหนึ่งเป็นทางออก Koen-guchi แปลตรงตัวว่าทางออกฝั่งสวนสาธารณะใครจะไป Ghibli Museum ก็ออกทางฝั่งนี้
วันนี้จะพาไปสำรวจฝั่งด้านทิศเหนือกันก่อน ใครที่ชอบช้อปและชอบทานมาฝั่งนี้ป็นที่ถูกใจ เพราะแค่ก้าวออกจากชานชาลาสถานีรถไฟก็เจอห้าง atre แล้ว เพราะห้างนี้เขาตั้งอยู่ในอาคารสถานีเลย เท่าที่ผมสังเกตุ ห้าง atre มักจะเลือกทำเลในตัวอาคารสถานีรถไฟหรือติดสถานีรถไฟแทบทั้งนั้น หรือแย่สุดก็ตรงข้ามสถานีรถไฟ ในทางการตลาดก็ต้องถือว่า P ตัวที่สามคือทำเลนั้นเป็นต่อ เพราะที่ญี่ปุ่นนี่สถานีรถไฟถือเป็นทำเลทองกันเลยทีเดียว เพราะใครจะมาจะไปก็มักใช้รถไฟกัน ห้าง atre ก็ได้อานิสงค์ของ traffic จึงมีคนแน่นเกือบทั้งวัน โดยเฉพาะช่วงเย็นเป็นช่วงที่ผู้คนกลับบ้านยิ่งขายดิบขายดี
ออกจากอาคารสถานีด้านทิศเหนือมาแล้วก็จะเจอถนนเฮอิวะ (Heiwa-dori) ตั้งหลักกันที่ถนนนี้ ถ้าหันหลังให้อาคารสถานีรถไฟ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นย่านการค้าหลายแนว ด้านหน้าสุดเรียกว่า Harmonica Yokocho ถัดเข้าไปอีกหน่อยเป็นศูนย์การค้ากลางแจ้งแต่มีหลังคาปกคลุมเรียกว่า Sun Road และ Daiyagai แต่ถ้าเดินตามถนนเฮอิวะไปทางซ้ายก็จะเจอห้างสรรพสินค้า Parco อยู่สุดถนนฝั่งขวามือวันนี้เอาแค่กระจุกนี้ก่อน เริ่มต้นที่ Harmonica Yokocho เป็นพื้นที่เล็กๆ ผมกะคร่าวๆด้วยสายตาน่าจะมีความกว้างประมาณ 50 เมตร ลึกประมาณ 50 เมตร ประกอบด้วยซอยทางลึก 4 เส้นและซอยทางขวางตัดตรงกลางอีกหนึ่งเส้น ด้านหน้าติดกับถนนเฮอิวะและด้านหลังชน Daiyagai โซนนี้ถ้าให้ผมจัดอันดับความชอบ 3 อันดับในย่ายคิชิโจจิ ผมจัดให้เป็นโซนที่มีเสน่ห์เป็นลำดับที่สามครับเพราะใน Harmonica Yokocho นี้มันมีชีวิตชีวามากกว่าโซนไหนๆ ในซอยเล็กๆทุกซอยจะอัดแน่นไปด้วยร้านค้าเล็กๆประมาณ 90 ร้าน มีทั้งร้านเสื้อผ้าและร้านอาหาร แต่จะเน้นหนักไปทางร้านอาหารมากกว่า สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 พื้นที่ตรงนี้เป็นตลาดมืดมาก่อน ร้านค้าในตลาดมืดแห่งนี้เรียงติดกันถี่ยิบเหมือนร่องซี่ของหีบเพลงปาก เลยเป็นที่มาของชื่อ Harmonica Yokocho และเมื่อผ่านพ้นช่วงสงครามไปแล้วพื้นที่ตรงนี้ก็ถูกปรับเปลี่ยนเป็นร้านค้า และร้านอาหารมาจนทุกวันนี้ แต่ตลอด 60 กว่าปีที่ผ่านมา พื้นที่ตรงนี้เปลี่ยนแปลงน้อยมากโดยเฉพาะอาคาร ที่ยังคงสภาพเดิมๆไว้ให้เห็นอยู่เป็นส่วนมาก แต่ประเภทของร้านก็ปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย แต่ก็ยังรักษาบรรยากาศของตรอกหีบเพลงไว้ได้ในระดับที่น่าพอใจ
ร้านค้าส่วนใหญ่ในตรอกแถวนี้เป็นร้านกินดื่ม (Izakaya) ขนาดเล็ก บางร้านนั่งได้แค่ 6-7 คน ร้านใหญ่หน่อยก็อาจนั่งได้สิบกว่าคน บางร้านไม่มีที่นั่งต้องยืนกินแต่ก็มีลูกค้าอุดหนุนเต็มร้าน อย่างร้าน Tetchan ที่มีส่วนเตรียมอาหารเป็นเคาน์เตอร์ใหญ่อยู่ตรงกลาง ให้ลูกค้ายืนสั่งยืนกินอยู่รอบเคาน์เตอร์ เมนูหลักของร้านก็เป็นพวกไก่ย่าง (Yakitori) และของเสียบไม้ย่างอื่นๆรวมทั้งเครื่องในตุ๋น 2 หม้อใหญ่ที่ขายหมดทุกวัน ผมยืนคุยกับเจ้าของร้านได้ความว่าลูกค้าส่วนใหญ่ของที่นี่คือคนทำงาน ช่วงหัวค่ำจะเป็นคนทำงานในย่านคิชิโจจิมายืนกินดื่มกันหลังเลิกงาน พอตกดึกจะเป็นคนพื้นที่ๆกลับมาจากที่ทำงานแล้วแวะกินดื่มก่อนเข้าบ้าน ร้านเขาเลยเปิดเฉพาะตอนเย็นไปจนเที่ยงคืน
ติดๆกันเป็นร้านนั่งดื่มชื่อ Ahiru Beer Hall ที่ไม่ได้มีแค่เบียร์ แต่หลากหลายไปด้วยเครื่องดื่มมึนเมาทั้ง สุรา สาเกและไวน์ โดยเฉพาะไวน์ของที่นี่มีให้เลือกมากมายในราคาย่อมเยาว์ วันที่ผมไปเห็นมีคุณลุงนั่งดื่มไปคุยไปกับคุณเจ้าของร้านที่ยังหนุ่ม แถมมีไมตรีเชิญชวนผมให้เข้าไปดื่มด้วย เป็นบรรยากาศที่หาไม่ได้ง่ายๆในเขตใจกลางเมืองอย่างชินจูกุ กินซ่า หรือชิบุยะ แต่ที่ติชิโจจินี่ยังมีให้เห็นอยู่ไม่น้อย
อีกร้านอยู่ในซอยถัดไปมีคนนั่งรอคิวอยู่เต็มร้านอีกเช่นกัน เป็นร้านขายพาสต้าชื่อ Spa Kichi ทำเส้นพาสต้าสดๆโชว์กันตรงหน้าร้าน เรียกแขกได้เป็นอย่างดีแถมราคาย่อมเยาว์ทุกเมนูไม่เกิน 1,000 เยน จะทานเส้นพาสต้าหน้ามาตรฐานอย่างซอสเนื้อ ซอสมะเขือเทศหรือครีมซอสก็มีให้เลือก แต่ผมขอแนะนำเมนูเด่นคือเส้นพาสต้าคลุกกับไข่ปลาค้อด(เมนไทโกะ) ไข่หอยเม่นและปลาหมึก ราคาแค่ 950 เยนเป็นการผสมผสานอาหารอิตาลี่และอาหารญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว แต่เมนูที่ร้านเขาแนะนำว่าน่าจะเป็นอันดับ 1 ก็ต้องเส้นพาสต้าคลุกกับต้นหอม สาหร่าย ไข่ต้มและนัตโตะ เมนูนี้ผมขอบายเพราะไม่ถูกโรคกับนัตโตะหรือถั่วหมักเป็นอย่างแรง ใครที่ชอบทานพาสต้าห้ามพลาดร้านนี้เด็ดขาด ร้านนี้เปิดขายตั้งแต่ 11โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม นอกจากนี้ก็ยังมีร้านราเมน ร้านข้าวราด ร้านโอเด้ง ฯลฯ ให้เลือกทานกันอีกมากมาย เป็นสวรรค์น้อยๆของนักชิมและนักดื่มก่อนเข้าบ้านเลยครับ