อร่อยร้อยลิ้น ปี2 ตอนที่1
กลับมาอีกครั้งตามสัญญากับร้านอาหารอร่อยๆทั่วญี่ปุ่น และร้านส่วนใหญ่ที่ไปทานก็ไม่ใช่ร้านทัวร์ลง แต่เป็นร้านที่คนญี่ปุ่นนิยมทานหรืออยากไปทานกัน หลายๆร้านที่เคยเขียนๆไปในหลายคอลัมน์ก็เริ่มมีลูกค้าชาวไทยตามไปชิมกันบ้างแล้ว โดยเฉพาะที่ฮอกไกโดซึ่งปีที่ผ่านมาคนไทยไปเที่ยวกันทุกวันเพราะการบินไทยเขามีบินทุกวัน มาปีนี้ก็เช่นเดียวกัน มนต์เสน่ห์ของฮอกไกโดก็ยังไม่เสื่อมคลาย คนไทยยังบินมาเที่ยวกันไม่ขาดสาย อย่างเดือนนี้ผมมีคิวมาฮอกไกโดถึง3รอบๆแรกมาร่วมงานHokkaido Snow Expoที่Nisekoซึ่งเป็นบริษัททัวร์ไทยแห่งเดียวที่ได้รับเชิญมา อีก2รอบมากับคณะทัวร์ที่ตั้งใจมาเล่นสกีกัน ปีนี้ผมเจอคนไทยมาเล่นสกีที่ฮอกไกโดเยอะมากๆโดยเฉพาะที่Niseko ดูจากFacebookและInstagramแล้วบรรดาเพื่อนพ้องน้องพี่หนีร้อนมาพึ่งหนาวที่นิเซโกะกันหลายต่อหลายคน ลองถามบรรดาผู้ประกอบการดูก็ได้คำตอบตรงกันลูกค้าที่บริษัทฯก็มากันเยอะ ข้อมูลเรื่องที่พักและที่กินก็เลยเป็นประโยชน์สามารถแนะนำให้ลูกค้าไปพักและไปทานได้จริง ที่พักก็เช่นThe Vale, Shiki หรือร้านอาหารก็Ichimura, Abucha, L’o canda โดยเฉพาะร้านหลังนี่ถือว่ายังใหม่สำหรับตลาดคนไทย แต่ลูกค้าที่ผมแนะนำให้ลองไปทานกลับมาแล้วชมกันทุกคน วันนี้เลยอยากจะแนะนำอีกร้านนึงซึ่งอยู่ที่Nisekoเหมือนกันแต่ไม่ได้อยู่ในย่านชุมชนพลุกพล่าน ต้องเขยิบออกมาหน่อยนึงและถ้าไม่ตั้งใจไปรับรองว่าหาไม่เจอ เพราะร้านนี้เขาประกาศตัวเลยว่าเป็นความลับครับ
ถ้าท่านนอนอยู่ที่หมู่บ้านHirafuก็ให้บ่ายหน้าไปทางNiseko Villageที่มีโรงแรมHiltonและGreen Leafตั้งอยู่ ระหว่างทางให้สังเกตทางซ้ายมือฝั่งเดียวกับภูเขาYoteiให้ดี จะมีป้ายขนาดไม่ใหญ่นักเขียนไว้ว่า Secret Restaurant Kame Niseko New Wave ก็ให้เลี้ยวเข้าซอยเล็กๆเข้าไป ในวันที่อากาศดีก็จะเห็นวิวของภูเขาโยเทอิตระหง่านเต็มตา ขับเข้าไปไม่ไกลก็จะเจอบ้านทรงยุโรปขนาดปานกลางสีน้ำตาลสลับขาวตั้งโดดเดี่ยวอยู่แค่หลังเดียว นั่นแหละครับ
Kameร้านอาหารที่มีความลับซ่อนอยู่ เห็นชื่อแบบนี้มีหรือที่จะไม่เข้าไปลองทาน บรรยากาศภายในร้านตกแต่งด้วยเครื่องเรือนไม้ชิ้นใหญ่เหมือนอยู่บ้านในเมืองเล็กๆของยุโรป แบ่งสัดส่วนชัดเจนระหว่างครัวเปิดทางด้านซ้ายและโต๊ะอาหารทางด้านขวา บริหารและบริการโดยครอบครัวที่มีคุณพ่อเป็นเชฟหนึ่งเดียวของร้าน มีคุณแม่เป็นผู้ช่วยในการเตรียมวัตถุดิบและมีลูกสาวซึ่งพูดภาษาอังกฤษได้ดีทำหน้าที่บริการลูกค้า
ปกติเวลาไปร้านที่ไม่รู้จักถ้าเป็นร้านญี่ปุ่นผมจะเลือกเมนูOmakaseหรือเมนูที่พ่อครัวเตรียมไว้สำหรับวันนั้นแต่ถ้าเป็นร้านอาหารฝรั่งก็จะมีเมนูประจำวันซึ่งก็คงจะมีแนวคิดคล้ายๆกันกับOmakase เพราะเมนูที่พ่อครัวเตรียมไว้ย่อมต้องผ่านการใคร่ครวญทั้งในเรื่องของวัตถุดิบและรสชาติดีแล้ว และการเตรียมวัตถุดิบทีละมากๆก็เป็นการช่วยลดต้นทุน อาหารประจำวันหรือOmakaseจึงมักจะถูกกว่าเมนูปกติ เรียกว่าทั้งอร่อยและคุ้มค่า
ผมสั่งอาหารจากเมนูประจำวันมา3อย่างคือFillet Steak ไก่ย่างราดซอส และสปาเก็ตตี้คาโบนาร่า แถมด้วยเมนูง่ายๆอย่างสปาเก็ตตี้ผัดน้ำมันมะกอก สำหรับเมนูประจำวันเขาจะบริการซุป สลัดผักและกาแฟโดยไม่คิดเงินเพิ่มด้วย โชคดีที่เราไปกันเร็วร้านเพิ่งเปิดได้ไม่นานยังมีลูกค้าไม่มากนัก เชฟจึงออกอาหารได้เร็ว สปาเก็ตตี้คาโบนาร่ามาก่อนเพื่อน พ่อครัวคงเห็นว่ามีเจ้าตัวเล็กมาด้วยเลยรีบออกจานนี้ก่อน เป็นคาโบนาร่าที่อร่อยมากเส้นหนึบนุ่มคลุกเคล้ากับครีมชีสที่ทำจากนมสดคุณภาพดีและแฮมสดรสเยี่ยมของฮอกไกโด ความเข้มข้นจัดจ้านกินขาดหลายร้านที่เคยทาน เจ้าลูกชายตัวเล็กชอบมากแย่งพี่สาวกินไปครึ่งจาน
จานต่อมาสปาเก็ตตี้ผัดน้ำมันมะกอกที่อร่อยแบบง่ายๆรสชาติกลมกล่อมแต่ไม่จัดจ้านจนเกินงาม ตามด้วยสเต็กเนื้อสันในขนาดกำลังอิ่มพอดีราดด้วยซอสกระเทียม เสริฟพร้อมมะเขือม่วงย่างและมันบด เทียบกับราคา2,000เยนแล้วต้องถือว่าคุ้มสุดๆ เนื้อย่างสุกปานกลางนุ่มชุ่มฉ่ำกำลังดีทานคู่กับมะเขือม่วงที่ย่างจนนุ่มเข้ากันได้เป็นอย่างดี มีความสุขมากๆเลยครับสำหรับจานนี้
ที่เกินความคาดหวังคือจานสุดท้าย ไก่ย่างราดซอส ปกติผมจะไม่ค่อยชอบทานอาหารที่ราดด้วยซอสมะเขือเทศที่ออกรสเปรี้ยว แต่จานนี้เป็นข้อยกเว้นครับ ผมจำได้ว่าเคยไปเดินเล่นที่Niseko View PlazaในNiseko Townแล้วไปเจอมะเขือเทศหวานเลยซื้อมาลองทานแล้วติดใจมากซอสของร้านนี้ก็ทำจากมะเขือเทศหวานของนิเซโกะที่มีรสหวานกว่ามะเขือเทศทั่วไปนี่แหละครับ ซึ่งเข้ากันได้ดีกับเนื้อสะโพกไก่ที่ย่างจนหอมกรุ่น เวลาเคี้ยวกลิ่นควันไม้ยังอบอวลในปากผสมผสานกับรสหวานของซอสมะเขือเทศทำให้เมนูนี้ประกบกับสเต็กเนื้อสันในได้อย่างไม่อายเลย และด้วยราคาเพียงแค่1,500เยนเท่ากับสปาเก็ตตี้คาโบนาร่า ผมเลยขอยกให้จานนี้เป็นพระเอกของมื้อเพราะทั้งถูกปากและถูกตังค์ เช็คบิลแล้วจ่ายไปแค่6พันกว่าเยนแค่นั้นเองครับ ใครไปเล่นสกีจะที่ฮิราฟุหรือหมู่บ้านนิเซโกะ ลองแวะไปทานร้านคาเมะดูนะครับ รับรองว่าท่านจะมีพลังในการเล่นสกีขึ้นอีกเยอะ ร้านเขาเปิดรอบกลางวันเวลา11.00-15.00น. และมื้อค่ำเวลา18.00น.เป็นต้นไป เพื่อไม่ให้เป็นการผิดหวังกรุณาโทรไปจองก่อนก็ดี เพราะมีลูกค้าหลายท่านจองไปช้าปรากฏว่าโต๊ะเต็ม อดทานของอร่อยมาว่ากันไม่ได้นะครับ