JR RAIL PASS คืออะไร
JR RAILPASS คือบัตรโดยสารที่สามารถใช้ในการเดินทางภายในประเทศญี่ปุ่น ด้วยเครือข่ายเส้นทางคมนาคมที่บริหารงานโดย JR (ได้แก่รถไฟ รถบัส รถไฟสำหรับเดินทางเข้าเมืองซึ่งให้บริการจากสนามบิน รถไฟหัวกระสุนหรือชินคันเซ็น (SHINKANSEN/BULLET TRAIN)รวมทั้งเรือข้ามฟาก) ซึ่งทำให้ผู้สนใจที่ต้องการเดินทางไปสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวในญี่ปุ่นด้วยตนเองได้รับความสะดวกสบาย รวดเร็วและที่สำคัญคือความประหยัดที่แม้แต่ชาวญี่ปุ่นเองยังแอบอิจฉา
ประเภทของ JR RAIL PASS
JR RAILPASS สามารถแบ่งออกได้ 2 ประเภท คือ
1. ประเภทใช้ได้ทุกภูมิภาคในประเทศญี่ปุ่น โดยแบ่งออกเป็นแบบ Ordinary และ Greenระยะเวลาการใช้เริ่มต้นที่ 7 วัน 14 วันและ 21 วัน มีทั้งราคาเด็กและราคาผู้ใหญ่ รายละเอียดตามตารางด้านล่าง ซึ่งบัตรประเภทนี้ไม่มีจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น
ประเภท | ระยะเวลา | ราคาผู้ใหญ่ | ราคาเด็ก*1 |
Ordinary | 7 วัน | 29,110 เยน | 14,550 เยน |
14 วัน | 46,390 เยน | 23,190 เยน | |
21 วัน | 59,350 เยน | 29,670 เยน | |
Green*2 | 7 วัน | 38,880 เยน | 19,440 เยน |
14 วัน | 62,950 เยน | 31,470 เยน | |
21 วัน | 81,870 เยน | 40,930 เยน |
*1ราคาเด็ก สำหรับกรณีที่เด็กมีอายุ 6-11 ขวบ โดยต้องดูวันเดือนปีเกิดในหนังสือเดินทางเป็นหลักซึ่งต้องครอบคลุมระยะเวลาในการใช้บัตร JR RAILPASS เมื่อเดินทางในประเทศญี่ปุ่นด้วย
*2บัตร JR RAILPASSประเภท Green จะใช้สำหรับขบวนรถไฟหัวกระสุน (SHINKANSEN) ในตู้รถ (Car No.) ที่ 1-4 เท่านั้น ซึ่งมีความแตกต่างจาก Ordinaryเพียงแค่มีเบาะที่นั่งที่กว้างกว่าและระยะห่างระหว่างเบาะที่นั่งมากกว่าเท่านั้น
2. ประเภทใช้ตามแต่ละภูมิภาค ประกอบด้วย
2.1 JR EAST PASS สำหรับการเดินทางในเส้นทางตั้งแต่โตเกียวไปจนถึงจังหวัดอาโอโมริ (หรือตั้งแต่สถานีรถไฟ JR TOKYOไปจนถึงสถานีรถไฟ JR SHIN AOMORI สำหรับระยะเวลาในการใช้บัตรดูตารางด้านล่างประกอบ
*3ระยะเวลา Flexible 4 วันหมายถึง สามารถใช้บัตร JR EAST PASSนี้ได้ภายใน 4 วัน โดยไม่จำเป็นต้องใช้บัตรติดต่อกัน
นอกจากนี้ทาง JR EAST ยังมีโปรโมชั่นพิเศษแบบ Flexible 3 วัน ในราคา 10,000 บาท JR East Pass ทั้งแบบปกติและแบบ Special สามารถซื้อได้ทั้งนอกและในประเทศญี่ปุ่น ส่วนแบบ Special จะมีช่วงระยะเวลาจำหน่ายและการใช้งาน ซึ่งรายละเอียดนี้จะแตกต่างกันไปในแต่ละปี ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.jreast.co.jp/e/eastpass_sp/purchase.html
2.2 JR KANTO PASS เป็น PASSใหม่ล่าสุดที่ออกมาเพื่อเอาใจนักท่องเที่ยวรักอิสระและไม่อยากไปไหนไกลเกินบริเวณโตเกียวและใกล้เคียง นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการไปเที่ยวบริเวณภูเขาไฟฟูจิ เพราะสามารถนั่งรถไฟของ Fuji Kyukoจนไปถึงสถานี Kawakuchigo ซึ่งปกติเป็นรถไฟสายเอกชนได้อีกด้วย (JR Pass ชนิดอื่นไม่สามารถใช้กับรถไฟเอกชนได้) และ Tokyo Monorail สะดวกสบายสำหรับลูกค้าที่มีไฟลท์ไป-กลับซึ่งต้องเดินทางขึ้นเครื่องที่สนามบินฮาเนดะ
2.3 JR WEST PASS ใช้สำหรับการเดินทางในภูมิภาคคันไซ ซึ่งแบ่งพื้นที่ตามการใช้บัตรออกเป็น 2 ประเภทคือ Kansai Area (สามารถใช้ได้ครอบคลุมบริเวณจังหวัดโอซาก้า เกียวโต นารา เฮียวโกะ (โกเบ)) Sanyo Area (สามารถใช้ได้ครอบคลุมบริเวณจังหวัดโอซาก้า เกียวโต นารา เฮียวโกะ (โกเบ) โอคายามะ ฮิโรชิมะและฟุคุโอกะ (จนถึงสถานีฮาคาตะเท่านั้น)
2.4 JR HOKKAIDO PASS ใช้สำหรับการเดินทางด้วยรถไฟและรถบัสของ JR ภายในพื้นที่เขตจังหวัดฮอกไกโดเท่านั้น โดมีรายละเอียดประเภทและราคาตามตารางด้านล่าง
2.5 JR KYUSHU PASS เป็น RegionalPassที่ไม่มีจำหน่ายภายในประเทศญี่ปุ่น ใช้สำหรับการเดินทางด้วยรถไฟและรถบัสของ JR ภายในพื้นที่คิวชู ซึ่งแบ่งย่อยได้อีก 2 ประเภท 1. สำหรับใช้กับพื้นที่ทางตอนเหนือของคิวชู (Northern Kyushu Pass) คือ จังหวัดฟุคุโอกะ จังหวัดซางะ จังหวัดโออิตะ จังหวัดนางาซากิและจังหวัดคุมาโมโต้ และ 2. สำหรับใช้กับทั่วทั้งพื้นที่คิวชู (All Kyushu Pass)
หมายเหตุ:เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี ขึ้นรถได้ฟรีโดยไม่ต้องซื้อบัตร JR Kyushu Pass
เงื่อนไขในการซื้อบัตรโดยสาร JR RAILPASS (ครอบคลุมทุกประเภทของบัตร)
1. ลูกค้าต้องมีวีซ่าเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นประเภทท่องเที่ยวเท่านั้น และต้องแสดงพร้อมถ่ายสำเนาหน้าวีซ่าของลูกค้าเก็บไว้เป็นหลักฐานด้วย จึงจะออกบัตร JR Rail Passได้
2. สามารถออกบัตรโดยสาร JR Rail Passให้กับลูกค้าต่างชาติได้ ไม่จำเป็นต้องขอดูหน้าวีซ่าเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น ยกเว้นประเทศที่ไม่ได้รับข้อยกเว้นในการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นโดยไม่ต้องขอวีซ่า การซื้อบัตรโดยสาร JR Rail Passจะออกเป็น Exchange Voucher สำหรับแลกและเปิดใช้บัตร JR Rail Pass(บัตรแข็ง) เมื่อเดินทางถึงประเทศญี่ปุ่นแล้ว
3. สามารถออกบัตรโดยสาร JR Rail Pass ให้กับลูกค้าที่เป็นชาวญี่ปุ่นได้ ในกรณีที่อาศัยอยู่นอกประเทศญี่ปุ่นเป็นการถาวร และลูกค้าชาวไทยที่แต่งงานกับชาวญี่ปุ่นและอาศัยอยู่นอกประเทศญี่ปุ่น (ในข้อ 3 นี้จะต้องแสดงเอกสารที่ยืนยันได้ว่าไม่ได้อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น)
4. กรณีลูกค้าขอคืนบัตรโดยสาร JR Rail Pass จะต้องตรวจสอบก่อนว่าบัตรยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่มีรอยฉีก รอยขาดใด ๆ ทั้งสิ้น โดยจะคิดค่าธรรมเนียมเป็นจำนวน 10% ของราคาหน้าบัตรโดยสาร JR Rail Passประเภทที่ซื้อไว้ ตัวอย่างเช่น บัตร JR Rail Pass 7วัน ค่าธรรมเนียมในการคืนบัตร 2,830 เยน จำนวนเงินที่คืนให้ลูกค้า 25,470เยน
5. กรณีลูกค้าทำ Exchange Voucherเพื่อใช้แลกเป็น JR Rail Pass สูญหายหรือถูกขโมย หรือมีรอยขาด รอยฉีกบนหน้าบัตรก่อนการเปิดใช้บัตรในประเทศญี่ปุ่น จะไม่สามารถออกให้ใหม่ได้ทุกกรณี ทั้งนี้รวมไปถึงกรณีที่มีการสะกดชื่อ-สกุลผิด เพราะฉะนั้นต้องตรวจสอบก่อนทุกครั้ง จะผิดแม้แต่ตัวเดียวไม่ได้ (เหมือนกันกับเวลาออกตั๋วเครื่องบิน)